ไปยังคำร้องขอใบเสนอราคาของฉัน 0
Camion devant un entrepôt de distribution avec des quais de chargement

Truck parked in front of a logistics platform

Camion devant un entrepôt de distribution avec des quais de chargement

5 กลยุทธ์การลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจที่ใช้รถบรรทุก รถพ่วง และอื่นๆ

ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง มิชลินในฐานะผู้นำด้านยางรถบรรทุกและโซลูชันต่างๆ เกี่ยวกับรถบรรทุก รถพ่วง และรถอื่นๆ ที่ใช้ในธุรกิจหลากหลายรูปแบบ พร้อมที่จะแนะนำ 5 กลยุทธ์การลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับบริษัทหรือธุรกิจที่ต้องการพัฒนาและปรับปรุงสิ่งต่างๆ เพื่อลดภาระด้านการขนส่งสินค้าในระยะยาว

1. วางแผนเส้นทางการจัดส่งเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการยาง


หัวใจสำคัญของการลดต้นทุนโลจิสติกส์ไม่ได้อยู่แค่การควบคุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถเท่านั้น แต่เริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนแรก นั่นคือ การวางแผนเส้นทางการจัดส่ง ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ได้อย่างมหาศาล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจของคุณ นี่คือ 3 กลยุทธ์สำคัญในการวางแผนเส้นทางการจัดส่งที่คุณควรนำไปปรับใช้เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์
 

ใช้ซอฟต์แวร์วางแผนเส้นทางเพื่อหาเส้นทางที่สั้นและประหยัดที่สุด

ในยุคปัจจุบันที่ทุกหน้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การพึ่งพาประสบการณ์ของพนักงานขับรถเพียงอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป ซอฟต์แวร์วางแผนเส้นทางจึงกลายเป็นโซลูชันที่ช่วยให้สามารถคำนวณและประมวลผลปัจจัยต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น สภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ ข้อจำกัดของถนนแต่ละประเภท และช่วงเวลาการจัดส่งของลูกค้า เพื่อหาเส้นทางที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันมากที่สุด และยังช่วยเพิ่มจำนวนการจัดส่งต่อวันได้มากขึ้นอีกด้วย
 

รวมสินค้าเพื่อลดจำนวนเที่ยววิ่ง และเพิ่มปริมาณการบรรทุกต่อเที่ยวให้เต็มที่

การรวมสินค้าคือหนึ่งในวิธีบริหารจัดการการขนส่งรูปแบบหนึ่ง ที่จะรวมเอาสินค้าจากลูกค้าหลายรายที่อยู่ในเส้นทางใกล้เคียงกันไว้ในรถบรรทุก รถกระบะตู้ทึบ หรือรถพ่วงคันเดียวกัน แทนที่จะส่งรถออกไปหลายคันพร้อมกับสินค้าต่างๆ ที่ยังไม่เต็มความจุ วิธีนี้จะช่วยให้รถบรรทุกสามารถวิ่งได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนการขนส่งโดยรวม
 

บริหารจัดการตารางเวลาการจัดส่ง เพื่อลดเวลาที่รถต้องจอดรอหรือวิ่งรถเปล่า

เวลาที่สูญเสียไปกับการจอดรอรับหรือส่งสินค้า สภาพจราจรที่ติดขัด หรือการวิ่งรถเปล่าเพื่อกลับไปยังคลังสินค้า คือต้นทุนแฝงที่ธุรกิจหลายแห่งมองข้ามไป ทั้งๆ ที่หากสามารถบริหารจัดการตารางเวลาการจัดส่งที่แม่นยำ ก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ลดเวลาที่พนักงานต้องขับรถอยู่บนถนนให้น้อยลง ทั้งยังช่วยในเรื่องการประหยัดค่าน้ำมัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่การเพิ่มกำไรและความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

 

2. บริหารจัดการยานพาหนะและบำรุงรักษาเชิงป้องกันเพื่อลดต้นทุนแฝงในธุรกิจโลจิสติกส์


ต้นทุนที่มองเห็นได้อย่างค่าน้ำมันหรือค่าจ้างพนักงานขับรถอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายในธุรกิจโลจิสติกส์ แต่ก็ยังมีต้นทุนแฝงที่เกิดจากรถเสียกลางทาง, การซ่อมบำรุงฉุกเฉิน, หรือการเปลี่ยนอะไหล่บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสิทธิภาพและกำไรของธุรกิจ ดังนั้นการบริหารจัดการยานพาหนะจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้อย่างยั่งยืน
 

Preventive Maintenance บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงที่รถจะเสียกลางทาง

ธุรกิจที่ใช้รถบรรทุกเป็นประจำทุกวันคงไม่อยากเจอกับเหตุการณ์รถเสียกลางทางแล้วถึงค่อยซ่อมแน่นอน เพราะถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่หากมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น ทุก 10,000 กม. หรือทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสอบและเปลี่ยนอะไหล่สำคัญต่างๆ ก่อนที่จะเกิดการชำรุดเสียหาย ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่ช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

จัดการข้อมูลยานพาหนะและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ

การบันทึกและติดตามข้อมูลยานพาหนะอย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติการซ่อมบำรุง ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถแต่ละคัน ไปจนถึงอายุการใช้งานของยาง ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์แนวโน้มค่าใช้จ่าย เปรียบเทียบประสิทธิภาพของรถแต่ละรุ่น วางแผนงบประมาณล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อรถหรืออะไหล่ในอนาคตได้ด้วยข้อมูลที่มีอยู่อย่างแท้จริง
 

เลือกใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่ที่มีคุณภาพ เพื่อลดความถี่ในการซ่อมแซม

ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งบางรายอาจเลือกใช้อะไหล่ราคาถูก ที่ในช่วงแรกๆ อาจดูเหมือนเป็นการประหยัดเงิน แต่ในระยะยาวกลับต้องจ่ายแพงกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะอะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพมักจะเสื่อมสภาพเร็วและนำไปสู่การซ่อมที่ไม่จบไม่สิ้น ต่างจากการลงทุนกับชิ้นส่วนและอะไหล่คุณภาพสูง ที่จะทำให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้นานขึ้น เพิ่มความปลอดภัย และลดต้นทุนโลจิสติกส์โดยรวมตลอดอายุการใช้งานของรถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

05 รถบรรทุกเฉพาะกิจ

3. ลดต้นทุนโลจิสติกส์ด้วยการบริหารจัดการยางรถบรรทุกอย่างชาญฉลาด


ในบรรดาค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธุรกิจขนส่ง ยางรถบรรทุกนับเป็นหนึ่งใค่าใช้จ่ายที่ใช้เงินสูงที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการบริหารจัดการยางอย่างถูกต้องจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สามารถช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ในระยะยาวอีกต่างหาก โดยมิชลินจะมาแนะนำเคล็ดลับอันชาญฉลาดดังต่อไปนี้

 

ตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสึกหรอและช่วยประหยัดน้ำมัน

แรงดันลมยางที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญของการประหยัดน้ำมันและยืดอายุการใช้งานยาง หากแรงดันลมยางอ่อนเกินไป จะทำให้หน้ายางเสียรูปและเกิดแรงต้านทานการหมุนสูงขึ้น เครื่องยนต์จะต้องทำงานหนักขึ้นและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ในทางกลับกัน หากแรงดันลมยางแข็งเกินไป จะทำให้หน้ายางสึกหรอเฉพาะตรงกลางเร็วกว่าปกติ ดังนั้น ธุรกิจขนส่งที่ใช้รถบรรทุกควรกำหนดตารางการตรวจสอบแรงดันลมยางของรถทั้งหมด อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ายางอยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่สุด
 

เลือกใช้ประเภทยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ยางรถบรรทุกในปัจจุบันถูกออกแบบมาสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น ยางสำหรับเพลาขับ, ยางสำหรับเพลาบังคับเลี้ยว, ยางสำหรับรถบรรทุกที่วิ่งทางไกล, หรือยางสำหรับรถที่ต้องวิ่งเข้าออกพื้นที่ไซต์งานก่อสร้าง การเลือกใช้ยางประเภทเดียวกับรถทุกคันอาจไม่ใช่ทางเลือกที่คุ้มค่าและดีที่สุดอีกต่อไป

มิชลินแนะนำให้ธุรกิจต่างๆ วิเคราะห์ลักษณะการใช้งานของรถแต่ละคัน พร้อมทั้งเลือกประเภทยางรถบรรทุกที่เหมาะสมที่สุด เช่น ยางประหยัดน้ำมันสำหรับรถบรรทุกที่วิ่งทางไกล, ยางที่ทนทานต่อการบาดตำสำหรับรถที่วิ่งในไซต์งาน และอื่นๆ เพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด
 

ใช้ยางรถบรรทุกที่สามารถหล่อดอกยาง หรือเซาะร่องได้

การลงทุนในยางรถบรรทุกที่มีคุณภาพสูงและมีโครงสร้างแข็งแรง ซึ่งสามารถหล่อดอกยางซ้ำหรือเซาะร่องได้อย่างยางรถบรรทุก Michelin ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่งในระยะยาว เพราะส่วนที่มีราคาสูงที่สุดของยางคือโครงยาง (Casing) หากโครงยางยังอยู่ในสภาพดี คุณสามารถนำไปหล่อดอกใหม่เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่าตัว

แน่นอนว่าการเลือกใช้ยางมิชลินที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับว่ามีโครงสร้างที่แข็งแรง ซึ่งสามารถนำไปหล่อดอกยางใหม่ได้อย่างปลอดภัย หรือทำการเซาะร่องยาง การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณลดต้นทุนรวมในการใช้ยางต่อกิโลเมตร (Cost per Kilometer) ลงได้อย่างมหาศาล และเป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

4. อบรมพนักงานเรื่องพฤติกรรมและพัฒนาทักษะการขับขี่


พนักงานขับรถถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจโลจิสติกส์ เพราะพวกเขาคือผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยและมีอิทธิพลโดยตรงต่อประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนการดำเนินงาน การลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะการขับขี่ของพนักงานจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ มิชลินจะมาแนะนำสิ่งที่ธุรกิจสามารถทำเพื่อช่วยพัฒนาบุคลากรและลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้พร้อมกัน

 

ฝึกอบรมพนักงานขับรถให้ขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน

พฤติกรรมการขับขี่ส่งผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการฝึกอบรมพนักงานขับรถให้เข้าใจหลักการของการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมันจึงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้เห็นผลชัดเจนที่สุด ด้วยการสอนให้พนักงานขับรถขับขี่อย่างนุ่มนวล รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อลดการเบรกบ่อยครั้ง และรู้จักใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็ว ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อได้ถึง 5-15% และยังลดการสึกหรอของยาง ผ้าเบรก และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ทำให้ประหยัดค่าซ่อมบำรุงได้อีกทางหนึ่ง
 

ติดตั้งระบบติดตามพฤติกรรมการขับขี่ (Telematics)

ระบบ Telematics ที่ใช้เทคโนโลยี GPS และเซนเซอร์ในรถ ช่วยให้ผู้ประกอบการที่ใช้รถบรรทุก รถพ่วง และรถขนส่งรูปแบบต่างๆ เก็บข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้การประเมินผลและการฝึกอบรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งผู้บริหารสามารถรู้ได้ว่าพนักงานคนไหนมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือขับขี่รถเปลืองน้ำมันได้แม่นยำขึ้น จนสามารถให้คำแนะนำหรือจัดอบรมได้อย่างตรงจุด และยังนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้เป็นเกณฑ์ในการให้รางวัลเพื่อสร้างแรงจูงใจในการขับขี่ที่ดีขึ้น
 

ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุคือต้นทุนที่แพงที่สุดสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เพราะไม่เพียงแค่ค่าซ่อมรถ แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล, ค่าเสียหายของสินค้า, และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ ผู้ประกอบการควรเน้นย้ำให้พนักงานขับรถปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถประมาท ไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ไม่เสพสารเสพติด และไม่ขับรถขณะมึนเมาหรือร่างกายไม่พร้อม ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันภัยลดลง ปกป้องทรัพย์สินของบริษัท และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตาของลูกค้าและต่อสังคม

 

Camions blancs alignés sur un parking

Edito picture effitires hero image Freight transport

Camions blancs alignés sur un parking

5. นำเทคโนโลยีและข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ประกอบการตัดสินใจ


ในยุคดิจิทัล ข้อมูลคือขุมทรัพย์ที่มีค่าที่สุดในการขับเคลื่อนธุรกิจโลจิสติกส์ให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มาใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน

 

ใช้เทคโนโลยี Telematic เพื่อตรวจสอบตำแหน่งและสถานะของรถแบบเรียลไทม์

เทคโนโลยี Telematic ไม่ได้มีไว้แค่บอกตำแหน่งของรถที่ดึงข้อมูลมาจากระบบ GPS เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ เพราะผู้จัดการที่คอยดูแลสามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถและเส้นทางการวิ่งได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าเรื่องสถานะการจัดส่งได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการวางแผนเส้นทางที่เหมาะสม และเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งด้วยการระบุพิกัดในกรณีฉุกเฉินอีกด้วย
 

นำระบบจัดการการขนส่ง (TMS - Transport Management System) มาใช้

ระบบ TMS คือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกระบวนการขนส่งทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดและจัดการงานเอกสารต่างๆ เช่น ใบส่งสินค้า, ใบแจ้งหนี้, และการวางบิล ทำได้ง่ายดายและเป็นอัตโนมัติมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขนส่งทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้การประมวลผลและการจัดทำรายงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้บริหารมีข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับการวางแผนในอนาคต
 

วิเคราะห์ข้อมูลการจัดส่งและค่าใช้จ่าย เพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงได้

การเก็บข้อมูลจากระบบ GPS และ TMS จะไม่มีประโยชน์เลยหากขาดการวิเคราะห์อย่างจริงจัง การนำข้อมูลเหล่านี้มาคิดต่อจะช่วยให้มองเห็นทั้งจุดอ่อนและโอกาสในการลดต้นทุนได้ ตั้งแต่วิเคราะห์ต้นทุนต่อกิโลเมตร, เปรียบเทียบประสิทธิภาพของเส้นทางต่างๆ, หรือระบุพฤติกรรมการขับขี่ที่สิ้นเปลืองน้ำมันได้ ทำให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเส้นทาง, การซ่อมบำรุงรถ, หรือการฝึกอบรมพนักงานขับรถ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

ยางรถบรรทุก Michelin หนึ่งในหัวใจหลักที่ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์


ยางรถบรรทุกไม่ใช่เพียงแค่ส่วนประกอบที่ทำให้รถเคลื่อนที่ได้ แต่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจโลจิสติกส์ ยางที่มีคุณภาพสูงจึงเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด เพราะสามารถสร้างความคุ้มค่าได้อย่างมหาศาลตลอดอายุการใช้งาน ยางรถบรรทุก Michelin ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อตอบโจทย์การลดต้นทุนในหลากหลายมิติ

  • ลดต้นทุนค่าน้ำมันด้วยยางที่มีแรงต้านทานการหมุนต่ำ: ยางมิชลินได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยี INFINICOIL และส่วนผสมยางที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้รถใช้พลังงานน้อยลงในการขับเคลื่อน ซึ่งส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ยาง MICHELIN X MULTI ENERGY Z ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการประหยัดพลังงานสูงสุดในการขนส่งทางไกลโดยเฉพาะ

  • เพิ่มอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว: ยางมิชลินขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ด้วยโครงสร้างยางที่แข็งแกร่งและทนทานต่อการสึกหรออย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า นอกจากนี้ โครงยางที่มีคุณภาพยังสามารถนำไปหล่อดอกใหม่ (Retread) ได้หลายครั้ง ซึ่งช่วยลดต้นทุนรวมต่อกิโลเมตรได้อย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น ยางรถบรรทุก 6 ล้อ MICHELIN X MULTI Z (17.5) ที่โดดเด่นเรื่องความทนทานในการใช้งานที่หลากหลาย และ ยาง MICHELIN X WORKS Z ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับงานหนักโดยเฉพาะ

  • เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่: ยางมิชลินให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมทั้งบนพื้นแห้งและเปียก มอบความมั่นคงในการขับขี่และประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่า ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยลดความเสียหายของรถและสินค้าที่บรรทุกอีกด้วย ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยในทุกเส้นทาง

 

คุณใช้เว็บบราวเซอร์ที่ไม่ใช่เวอร์ชั่นปัจจุบัน

เว็บบราวเซอร์ที่คุณใช้ไม่ได้รับการรองรับจากเว็บไซท์นี้ การใช้งานบางอย่างอาจไม่สมบูรณ์

กรุณาติดตั้งเว็บบราวเซอร์เหล่านี้เพื่อประโยชน์การใช้งานสูงสุด

Firefox 78+
Edge 18+
Chrome 72+
Safari 12+
Opera 71+