ค้นหายางมิชลินที่เหมาะกับคุณ ค้นหาผู้แทนจำหน่าย

นวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสัญจรของคุณ

เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในการผลักดันให้นวัตกรรมกลายเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของเรา: นวัตกรรมไม่ว่าจะเกิดจากแหล่งใด เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในด้านการพัฒนา ด้านความสามารถในการแข่งขัน และด้านอายุการใช้งานที่ยาวนานสำหรับบริษัทหรือธุรกิจของคุณ

ศูนย์เทคโนโลยีมิชลินว่าจ้างพนักงานมากกว่า 6,000 คนซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านที่แตกต่างกันกว่า 350 ด้าน รวมถึงนักวิจัย วิศวกร นักพัฒนา และผู้ทดสอบ ศูนย์เทคโนโลยีมิชลินได้ยื่นเรื่องเพื่อขอจดสิทธิบัตรมากกว่า 10,200 รายการทั่วโลก เรารู้ว่าการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ วัสดุใหม่ และเทคโนโลยีใหม่มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ

เทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ยางมีความปลอดภัย ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทำกำไรได้มากขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในระยะยาว

โครงยาง

เทคโนโลยีอินฟินิคอยล์ (INFINICOIL)

ความทนทานของมิชลินตามระยะทางการขับขี่สะสม

การริเริ่มใช้งานสายพานเหล็กแบบต่อเนื่องซึ่งมีความยาวสูงสุดถึง 400 ม. หุ้มรอบยาง เพื่อทำให้ยางมีการทรงตัวที่ดีขึ้นตลอดอายุการใช้งานของยาง

เทคโนโลยีที่ใช้งานควบคู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ นี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านสถาปัตยกรรมใหม่ในแง่ต่างๆ ดังต่อไปนี้

ความทนทาน
รูปแบบการสึกหรอ
ความสามารถในการหล่อดอกยางใหม่

เทคโนโลยีพาวเวอร์คอยล์ (POWERCOIL)

ความทนทานแบบมิชลินพร้อมด้วยแรงต้านทานการหมุนที่ดีขึ้น

ลวดรุ่นใหม่ที่ทำจากเหล็กกล้าที่ทนทาน ซึ่งช่วยทำให้ยางแต่ละเส้นมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้ความทนทานดีขึ้นและแรงต้านทานการหมุนลดลง

เทคโนโลยีดูราคอยล์ (DURACOIL)

แนวเชื่อมยางเสริมความแข็งแรงเพื่อความทนทานที่เพิ่มมากขึ้น

เราผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ดูราคอยล์ช่วยให้ปลอกยางมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นโดยการปรับปรุงหน้าสัมผัสของยาง/ล้อ ขณะใช้งาน ไนลอนคุณภาพสูงจะช่วยปกป้องบริเวณแนวเชื่อมยาง และให้การทรงตัวที่ดีขึ้นสำหรับส่วนปลายขอบยาง ด้วยการเสริมความแข็งแรงนี้ ความทนทานของปลอกยางและความสามารถในการหล่อดอกยางใหม่จึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ (UltraFlex) ของมิชลิน

การเพิ่มผลผลิตและการปกป้องดิน

มิชลินบรรลุผลสำเร็จในการจัดการกับความท้าทายสองประการนี้ในปี 2004 โดยการคิดค้นเทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ของมิชลิน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อแทนที่ของเก่า ช่วยให้ยางเพื่อการเกษตรทำงานได้โดยใช้แรงดันลมยางต่ำและปกป้องดิน ผลผลิตของคุณจึงดีขึ้น

เพื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดีขึ้นและเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และสิ่งที่สำคัญคือไม่ควรบดอัดดิน

เทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ของมิชลินแก้ไขสมการทั้งส่วนนี้ได้: แรงดันลมยางลดลง = การบดอัดน้อยลง = การปกป้องดินเพิ่มขึ้น = ผลผลิตที่สูงขึ้น

จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยฮาเปอร์ อดัมส์ที่ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ของมิชลินสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้ถึง 4% ตัวอย่างเช่น เมื่อพื้นที่เพาะปลูกให้ผลผลิต 8 ตันต่อพื้นที่หกไร่หนึ่งงาน และขายข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวได้ในราคา 7400 บาทต่อตัน ซึ่งเทียบเท่ากับผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 2370 บาทต่อปีต่อพื้นที่หกไร่หนึ่งงาน

เทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ของมิชลินคิดค้นขึ้นมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว ทว่าอนาคตยังดูสดใส: ยางรุ่น AXIOBIB 2 ของมิชลิน ซึ่งติดฉลากกำกับ AIR +/- SYSTEMS READY สามารถติดตั้งระบบเติมลมยางระยะไกลได้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบและปรับแรงดันลมยางให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศและสภาพการใช้งานได้

เทคโนโลยีบี 2 (B2)

จัดการกับเงื่อนไขทางวิศวกรรมโยธาที่ยากลำบากที่สุด

เพื่อเพิ่มผลผลิตในเหมืองและเหมืองหิน รวมถึงในการก่อสร้างและการดำเนินงานด้านการขนถ่ายวัสดุ เครื่องจักรและยางรถต่างก็ถูกผลักดันให้ถึงขีดจำกัดในการทำงานอยู่เสมอ เทคโนโลยี B² อันเป็นกรรมสิทธิ์ของมิชลินทำให้บริเวณแนวเชื่อมยางมีความทนทานมากขึ้น ดังนั้นจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง

มีการทดสอบหน้าสัมผัสของยาง/ขอบล้ออย่างเข้มงวดเมื่อใช้แรงบิดสูงหรือเมื่อบรรทุกของหนัก ยางมิชลินที่ใช้เทคโนโลยี B² มีเส้นลวดแนวเชื่อมโลหะขนาดกว้าง ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสกับขอบยาง ความแข็งแรงของบริเวณแนวเชื่อมยางจึงเพิ่มขึ้นและมีการหมุนที่ขอบยางน้อยลง

ขุดได้มากขึ้นและบรรทุกได้มากขึ้น: เทคโนโลยี B² ให้แรงบิดเพิ่มขึ้นสูงสุด 20%* ทำให้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพมากขึ้น

*การศึกษาภายในโดยเปรียบเทียบกับยางมิชลินรุ่นมาตรฐาน ค่าที่เฉพาะเจาะจงตามขนาด

เทคโนโลยีเอ็นอาร์เอฟ (NRF)

รับมือกับสภาวะที่ยากลำบากที่สุดของการขุดเหมืองใต้ดิน

ทนทานต่อสภาวะที่รุนแรงได้ดีขึ้นด้วยวิธีการต่อไปนี้:

เพิ่มชั้นยางอีก 2 ชั้นในโครงสร้างยางซึ่งมีสายไนลอนทอแบบไขว้ตลอดยางทั้งเส้น เพื่อเพิ่มความทนทานและความแข็งแรง
ลวดแบบใหม่ในชั้นการทำงานเพื่อเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและป้องกันการเกิดออกซิเดชันได้ดียิ่งขึ้น

ดอกยาง

เทคโนโลยีรีจีเนียน (REGENION)

การยึดเกาะของมิชลิน ตลอดการเดินทางทุกกิโลเมตร

บล็อกดอกยางที่สร้างใหม่ได้เองโดยใช้เทคนิคการพิมพ์โลหะด้วยแม่พิมพ์ 3 มิติของเรา นำเสนอคุณสมบัติในการยึดเกาะตลอดอายุการใช้งานของยาง ร่องยางใหม่จะปรากฏขึ้นตลอดอายุการใช้งานของยาง เพื่อเพิ่มความสามารถในการขับขี่

ในปี 2018 วิศวกรสองคนของมิชลินผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีรีจีเนียนได้รับรางวัลนักประดิษฐ์ชาวยุโรปในหมวดอุตสาหกรรม

วัสดุ

เทคโนโลยีคาร์เบียน (CARBION)

อายุการใช้งานที่ยาวนานของมิชลิน เมื่อเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า

วัสดุที่เกิดจากกระบวนการผสมผสานเชิงนวัตกรรม ซึ่งส่วนประกอบบางชนิดของดอกยางนั้นผสมผสานกันเมื่อของเหลวทำให้เกิดวัสดุที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้มากขึ้น

วัสดุชนิดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านระยะทางในการขับขี่ของยาง

เทคโนโลยีซิลิเชียน (SILICION)

ใช้สารประกอบซิลิกามากขึ้นเพื่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลง

ด้วยการรวมสารประกอบซิลิกาในเปอร์เซ็นต์สูงเข้ากับดอกยาง มิชลินจึงประสบความสำเร็จในการผลักดันขีดจำกัดของแรงต้านทานการหมุนเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง โดยไม่กระทบต่ออายุการใช้งานของยาง

ก้าวล้ำกว่าเรื่องยางรถ

เทคโนโลยียางไร้ลม TWEEL

ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษา ไม่ลดทอนคุณสมบัติอื่นๆ

MICHELIN X®TWEEL™ เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียวที่สมบูรณ์ซึ่งประกอบด้วยยางเรเดียลแบบไร้ลมยางและล้อ ดอกยางและล้อเชื่อมต่อกับซี่ล้อโพลียูรีเทนที่ยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาแรงดันลมยางและยางก็ไม่มีทางรั่วอีกด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการหยุดทำงานของเครื่องจักรได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังให้ความสะดวกสบายที่เหนือชั้นแก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ติดตั้งยางแบบไร้ลมในพื้นที่เพาะปลูกและงานสาธารณะ (สำหรับการก่อสร้างหรือการขนถ่ายวัสดุ)

เทคโนโลยีการติดตามยางด้วยคลื่นวิทยุ (RFID)

ชิป RFID (การติดตามด้วยคลื่นวิทยุ) คือส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่รับและส่งสัญญาณวิทยุ (แบบไร้สาย) จึงสามารถติดตามยางได้ด้วยวิธีการมาตรฐานที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยระบบติดตามยางมิชลินโดยใช้ชิป RFID ขนาดเล็กที่เชื่อถือได้ซึ่งติดตั้งอยู่ในยาง หมายความว่าคุณสามารถติดตามยางได้ตลอดวงจรชีวิตของยาง ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการรีไซเคิล เทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรนี้กำลังวางตลาดเพื่อให้แพร่หลายในอุตสาหกรรมยางรถยนต์

เนื่องจากยางเป็นเพียงส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน ยางจึงต้องมีศักยภาพในการบอกข้อมูลโดยละเอียดที่เป็นลักษณะเฉพาะตลอดอายุการใช้งาน ด้วยการใช้เทคโนโลยี RFID มิชลินได้เลือกที่จะผลิตยางที่ "ชาญฉลาด" โดยการเชื่อมโยงยางเข้ากับระบบต่างๆที่กว้างขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดและศักยภาพในการสร้างมูลค่า

กลุ่มมิชลินจะเร่งพัฒนาการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพื่อเชื่อมโยงกับยางมิชลินทั้งหมด รวมถึงยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในปี 2023 เราได้ทำการติดตั้งชิป RFID ในยางรถบรรทุกมิชลินไปแล้วกว่า 90% ในอเมริกาเหนือและยุโรป

MICHELIN QuickScan: เทคโนโลยีวินิจฉัยสภาพยางอัตโนมัติ

ระบบที่เชื่อถือได้ ทำงานอย่างรอบคอบ และเป็นนวัตกรรมใหม่:

การตรวจสอบการสึกหรอของยางโดยอัตโนมัติโดยใช้เครื่องสแกนแม่เหล็ก
ใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ (ฝน หิมะ ฯลฯ)
ระบบที่จดสิทธิบัตรโดยมิชลิน (จดสิทธิบัตรมากกว่า 15 รายการ)
วัดแรงดันลมยางของคุณโดยใช้เครื่องรับคลื่นความถี่วิทยุร่วมกับเครื่องสแกน (คุณสมบัตินี้พร้อมให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายน 2020)

การติดตั้งบนยานพาหนะที่รวดเร็วและง่ายดาย:

การระบุลักษณะของยานพาหนะโดยใช้แท็ก RFID ที่ติดตั้งอยู่บนโครงรถ
ฝาจุ๊บยางที่ขันลงบนล้อได้อย่างง่ายดาย (พร้อมจำหน่ายในปี 2020)

ระบบที่เป็นสากล:

ใช้งานกับยางรถบรรทุกได้ทุกประเภทและทุกยี่ห้อ
ใช้งานกับรถบรรทุกหนักได้ทุกประเภท (รถแทรกเตอร์ รถเทรลเลอร์ รถบรรทุกขนส่ง) รวมถึงรถโค้ชและรถบัส

ชุดเครื่องมือวินิจฉัยที่คำนึงถึงความต้องการของคุณเป็นหลัก:

รายงานการวินิจฉัยที่ออกแบบร่วมกับกลุ่มผู้ใช้งาน
คำแนะนำที่ชัดเจนและแม่นยำเกี่ยวกับการดำเนินการจากผู้เชี่ยวชาญของมิชลิน