ไปยังคำร้องขอใบเสนอราคาของฉัน 0

ข้อความ "ไม่มีข้อมูลตัวเลือก"

ค้นหายางมิชลินที่เหมาะกับคุณ ค้นหาผู้แทนจำหน่าย

นวัตกรรมที่ทำให้ยางรถบรรทุกและยางประเภทต่างๆ ของมิชลินมีประสิทธิภาพสูงและดีสำหรับธุรกิจของคุณ

มิชลินเชื่อว่านวัตกรรมที่แท้จริงคือการสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ และเป็นที่ยอมรับสำหรับผู้ใช้งานของเราทุกคน นวัตกรรมจึงไม่ใช่แค่เพียงส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ แต่คือหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและยกระดับผลการดำเนินงานของธุรกิจคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นส่งมอบให้คุณในทุกๆ วัน เพื่อให้คุณสามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง

ที่มิชลิน เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในการผลักดันให้นวัตกรรมกลายเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของเรา เพราะเราเชื่อว่านวัตกรรมที่แท้จริง ไม่ว่าจะเกิดจากแหล่งใดก็ตาม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในด้านการพัฒนา ด้านความสามารถในการแข่งขัน และด้านอายุการใช้งานที่ยาวนานสำหรับบริษัทหรือธุรกิจของคุณ

เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ยางชั้นนำของเราคือความทุ่มเทอย่างมหาศาลจากศูนย์เทคโนโลยีมิชลินทั่วโลก ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้ว่าจ้างพนักงานมากกว่า 6,000 คน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านที่แตกต่างกันกว่า 350 ด้าน รวมถึงนักวิจัย วิศวกร นักพัฒนา และผู้ทดสอบ เราทราบดีว่าการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ วัสดุใหม่ และเทคโนโลยีใหม่มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ทำให้ ยางรถบรรทุก, ยางรถแทรกเตอร์, และ ยางเพื่อธุรกิจ ของเรา

มีความปลอดภัยที่เหนือกว่า: ด้วยส่วนผสมยางและลายดอกยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน
ใช้งานได้ยาวนานขึ้น: ด้วยโครงสร้างยางที่แข็งแกร่งและทนทานต่อการสึกหรอจากการใช้งานหนัก
ทำกำไรได้มากขึ้น: ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีนัยสำคัญ
และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในระยะยาว: ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

โดยทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์จากการยื่นเรื่องเพื่อขอจดสิทธิบัตรมากกว่า 10,200 รายการทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นในนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง มิชลินจึงไม่เพียงแค่ผลิตยาง แต่เราสร้างสรรค์โซลูชันที่พร้อมเคียงข้างและขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกเส้นทาง

โครงสร้างยาง

นวัตกรรมมากมายที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อโครงสร้างยาง ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น แต่ยังช่วยให้ประหยัดการใช้น้ำมัน เพื่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุดในทุกการขับเคลื่อน

เทคโนโลยีอินฟินิคอยล์ (INFINICOIL)

เบื้องหลังความทนทานที่ช่วยให้ใช้งานยางได้ตามระยะทางที่เหมาะสม และคงประสิทธิภาพไว้ได้ยาวนาน

มิชลินเริ่มใช้งานสายพานเหล็กแบบต่อเนื่องซึ่งมีความยาวสูงสุดถึง 400 เมตร หุ้มรอบยาง นั่นทำให้ยางของเรามีความแข็งแกร่งและเสถียรภาพที่เหนือกว่า เทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้เปรียบเสมือนการสร้างแกนกลางที่มั่นคงให้กับยาง ช่วยให้ยางมีการทรงตัวที่ดีขึ้นและรักษารูปทรงได้อย่างคงที่ตลอดอายุการใช้งาน

เมื่อทำงานควบคู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ ของมิชลิน ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ดังนี้

ความทนทานเหนือระดับ: โครงสร้างที่แข็งแกร่งช่วยให้ยางทนทานต่อแรงกดดันและแรงกระแทกจากการใช้งานหนักได้อย่างดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานยิ่งขึ้น
รูปแบบการสึกหรอที่สม่ำเสมอ: ยางที่รักษารูปทรงได้ดีจะทำให้การสึกหรอของดอกยางเป็นไปอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งหน้ายาง ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน แต่ยังรักษาสมรรถนะการยึดเกาะที่ดีไว้ได้ตลอดการใช้งาน
เพิ่มความสามารถในการหล่อดอกยางใหม่: โครงสร้างที่แข็งแกร่งและไม่เสียรูปทรง ทำให้โครงยาง (Casing) ของมิชลินยังคงสภาพดีเยี่ยมพร้อมสำหรับกระบวนการหล่อดอกใหม่ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถนำยางกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้งและลดต้นทุนรวมได้อย่างมหาศาล

เทคโนโลยีพาวเวอร์คอยล์ (POWERCOIL)

พัฒนาเพื่อช่วยให้มีแรงต้านทานการหมุนที่ดีและทนทานมากขึ้น

เทคโนโลยี Powercoil ของมิชลินคือนวัตกรรมลวดรุ่นใหม่ที่ทำจากเหล็กกล้าที่มีความทนทานเป็นพิเศษ ช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของยางแต่ละเส้นลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ยางมีความทนทานต่อการใช้งานสูงขึ้น พร้อมทั้งลดแรงต้านทานการหมุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รถของคุณประหยัดเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีดูราคอยล์ (DURACOIL)

แนวเชื่อมยางเสริมความแข็งแรงเพื่อความทนทานที่เพิ่มมากขึ้น

เทคโนโลยี Duracoil ช่วยยืดอายุการใช้งานของปลอกยางให้ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการใช้ไนลอนคุณภาพสูงมาปกป้องบริเวณแนวเชื่อมยางและเสริมความแข็งแรงให้กับส่วนปลายขอบยาง ทำให้หน้าสัมผัสระหว่างยางกับล้อมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความทนทานของปลอกยางและความสามารถในการนำยางไปหล่อดอกใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีของมิชลินที่อยู่ในยางรถแทรกเตอร์

เทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ (UltraFlex)

เพิ่มผลผลิตและปกป้องดินไม่ให้เสื่อมสภาพ

สำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตลพรักษาดิน การบดอัดดินถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญ

มิชลินเข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงได้คิดค้นเทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์ (UltraFlex) ขึ้นตั้งแต่ปี 2004 โดยนวัตกรรมนี้ช่วยให้ยางรถไถและรถแทรกเตอร์ของคุณสามารถทำงานได้ที่แรงดันลมยางต่ำกว่ายางทั่วไป ส่งผลให้หน้ายางสัมผัสพื้นดินได้มากกว่าและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น

สมการง่ายๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริงก็คือ แรงดันลมยางลดลง = การบดอัดดินน้อยลง = การปกป้องดินเพิ่มขึ้น = ผลผลิตที่สูงขึ้น

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาเปอร์ อดัมส์ในประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นว่าการใช้ ยางรถแทรกเตอร์ ที่มีเทคโนโลยีอัลตราเฟล็กซ์สามารถ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้ถึง 4% ซึ่งนับเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยยางรุ่นใหม่ๆ เช่น MICHELIN AXIOBIB 2 ซึ่งรองรับระบบเติมลมยางระยะไกล (AIR +/- SYSTEMS READY) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบและปรับแรงดันลมยางให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีบี 2 (B2)

รับมือกับความท้าทายในงานวิศวกรรมโยธาที่เหนือระดับ

ในงานที่เครื่องจักรต่างๆ ต้องใช้พละกำลังสูงสุดอย่างในเหมืองแร่ เหมืองหิน งานก่อสร้าง หรือการขนถ่ายวัสดุหนัก บรรดาเครื่องจักรรวมถึงยางต่างก็ถูกผลักดันให้ถึงขีดจำกัดในการทำงานอยู่เสมอ ยางจึงต้องเป็นมากกว่าแค่ยาง แต่คือจุดเชื่อมต่อระหว่างกำลังของเครื่องยนต์กับพื้นผิวที่สมบุกสมบันที่สุด นี่คือเหตุผลที่มิชลินได้พัฒนา เทคโนโลยี B² (B-squared) อันเป็นกรรมสิทธิ์ของเราขึ้นมา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริเวณแนวเชื่อมยาง ซึ่งเป็นจุดที่รับแรงกดและแรงบิดสูงสุด

ด้วยเส้นลวดแนวเชื่อมโลหะขนาดกว้างที่อยู่ภายในยาง เทคโนโลยี B² ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างยางกับขอบล้อได้อย่างมหาศาล ทำให้บริเวณแนวเชื่อมยางมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ สามารถต้านทานแรงบิดสูงๆ และลดการหมุนฟรีของยางบนขอบล้อได้ แม้ในขณะที่ต้องบรรทุกของหนักหรือใช้แรงบิดสูง

ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและทำกำไรได้มากขึ้น เทคโนโลยี B² ช่วยให้ยางสามารถถ่ายทอดแรงบิดได้เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20%* เมื่อเทียบกับยางมิชลินรุ่นมาตรฐาน (ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาภายใน) นั่นหมายความว่าเครื่องจักรของคุณจะสามารถขุดและบรรทุกได้มากขึ้นในแต่ละรอบการทำงาน ทั้งยังเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพโดยรวม และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย

*การศึกษาภายในโดยเปรียบเทียบกับยางมิชลินรุ่นมาตรฐาน ค่าที่เฉพาะเจาะจงอาจแตกต่างกันไปตามขนาด

เทคโนโลยีเอ็นอาร์เอฟ (NRF)

รับมือกับสภาวะที่ยากลำบากที่สุดของการขุดเหมืองใต้ดิน

สำหรับงานที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมสุดขีด ยางของคุณต้องมีความทนทานที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป มิชลินจึงได้พัฒนา เทคโนโลยี NRF ขึ้นเพื่อมอบความแข็งแกร่งขั้นสุด และเพิ่มความทนทานต่อสภาวะที่รุนแรงได้อย่างมั่นใจ ด้วยการเพิ่มชั้นยางอีก 2 ชั้นในโครงสร้าง ซึ่งมีสายไนลอนทอแบบไขว้ตลอดยางทั้งเส้น เสมือนการสร้างเกราะป้องกันพิเศษจากภายใน เพื่อเพิ่มความทนทานและความแข็งแรง

นอกจากนี้ ยังใช้ลวดแบบใหม่ในชั้นการทำงานที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกจากการใช้งานอย่างหนักได้ดียิ่งขึ้น และป้องกันการเกิดสนิม ของลวดภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือยางที่มีโครงสร้างแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก สามารถทนทานต่อการใช้งานในสภาพพื้นที่ที่ยากลำบาก ลดความเสียหาย และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นอย่างคุ้มค่า

ดอกยาง

มิชลินใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในการออกแบบดอกยางให้มีรูปแบบที่สามารถพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปตามการสึกหรอของยางได้อย่างชาญฉลาด เพื่อไม่เพียงแค่ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น แต่ยังคงประสิทธิภาพการยึดเกาะและการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่องตลอดอายุการใช้งานของยาง

เทคโนโลยีรีจีเนียน (REGENION)

การยึดเกาะของมิชลิน ตลอดการเดินทางทุกกิโลเมตร

บล็อกดอกยางที่สร้างใหม่ได้เองโดยใช้เทคนิคการพิมพ์โลหะด้วยแม่พิมพ์ 3 มิติของเรา นำเสนอคุณสมบัติในการยึดเกาะตลอดอายุการใช้งานของยาง ร่องยางใหม่จะปรากฏขึ้นตลอดอายุการใช้งานของยาง เพื่อเพิ่มความสามารถในการขับขี่

ในปี 2018 วิศวกรสองคนของมิชลินผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีรีจีเนียนได้รับรางวัลนักประดิษฐ์ชาวยุโรปในหมวดอุตสาหกรรม

วัสดุทำยาง

เทคโนโลยีคาร์เบียน (CARBION)

ยางมิชลินที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า

นี่คือนวัตกรรมในการผสมวัสดุทำดอกยางที่แตกต่างออกไป ด้วยกระบวนการพิเศษที่ทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ผสมผสานกันในสถานะของเหลว จนกลายเป็นเนื้อยางที่มีความเป็นเนื้อเดียวกันและแน่นหนามากขึ้นกว่าวิธีการทั่วไป รวมถึงวัสดุดอกยางที่มีความทนทานต่อการสึกหรอสูงเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านระยะทางในการขับขี่ของยางให้ยาวนานขึ้นได้อย่างชัดเจน

เทคโนโลยีซิลิเชียน (SILICION)

ใช้สารประกอบซิลิกามากขึ้นเพื่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลง

กุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้ที่ใช้ยางมิชลินสามารถประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่ง คือเทคโนโลยี SILICION ที่มีการผสานสารประกอบซิลิกาในเปอร์เซ็นต์สูงเข้ากับเนื้อดอกยาง ซึ่งช่วยลดแรงต้านทานการหมุนของยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่ออายุการใช้งานของยางเลยแม้แต่น้อย คุณจึงได้ยางที่ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน พร้อมยังคงความทนทานและการใช้งานที่ยาวนานในระดับสูงสุด

ก้าวล้ำกว่าเรื่องยางรถ

ไม่ว่าจะเป็นบริการต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่ นวัตกรรมยางของมิชลินล้วนถูกคิดค้นมาเพื่อทำให้ยางมีความปลอดภัยมากขึ้นและใช้งานได้ยาวนานยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับองค์กรที่เลือกใช้ยางของเราอีกด้วย

เทคโนโลยียางไร้ลม TWEEL

ไม่จำเป็นต้องเติมลมหรือบำรุงรักษา และยังไม่ลดทอนคุณสมบัติอื่นๆ อีกด้วย

ลองจินตนาการถึงยางที่ไม่มีวันรั่ว ไม่ต้องเติมลม และไม่ทำให้เครื่องจักรต้องหยุดทำงานกลางคัน นี่สิ่งที่ เทคโนโลยียางไร้ลม TWEEL (MICHELIN X® TWEEL™) ผลิตภัณฑ์ปฏิวัติวงการที่รวมเอา 'ยาง' และ 'ล้อ' เข้าไว้ด้วยกันเป็นชิ้นเดียว แทนที่จะใช้ลมยาง ยาง TWEEL อาศัยโครงสร้างซี่ล้อโพลียูรีเทนที่ยืดหยุ่นและแข็งแรงเป็นพิเศษในการรับน้ำหนักและแรงกระแทก

นวัตกรรมนี้ช่วยลดการหยุดทำงานของเครื่องจักรได้อย่างมหาศาล เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องยางรั่วหรือยางแบนอีกต่อไป ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการซ่อมบำรุงแรงดันลมยาง นอกจากนี้ ซี่ล้อที่ยืดหยุ่นยังช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวที่ท้าทาย มอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้นแก่ผู้ขับขี่ในพื้นที่เพาะปลูก งานก่อสร้าง หรือการขนถ่ายวัสดุ

เทคโนโลยีการติดตามยางด้วยคลื่นวิทยุ (RFID)

คุณเคยคิดไหมว่ายางรถบรรทุกแต่ละเส้นก็มีบัตรประชาชนเป็นของตัวเอง มิชลินได้เปลี่ยนแนวคิดนี้ให้เป็นความจริงด้วยเทคโนโลยีการติดตามยางด้วยคลื่นวิทยุ (RFID) ซึ่งจะฝังชิป RFID ขนาดเล็กที่ฉลาดและเชื่อถือได้ไว้ในยาง ทำให้ยางแต่ละเส้นสามารถส่งและรับสัญญาณวิทยุ (แบบไร้สาย) ได้ เพื่อให้สามารถ ติดตามยางได้ตลอดวงจรชีวิต ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการรีไซเคิล

เพราะยางคือส่วนเดียวที่สัมผัสพื้นถนน ยางจึงมีศักยภาพในการบอกข้อมูลเชิงลึกตลอดอายุการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีนี้ มิชลินได้ทำให้ยางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาญฉลาดด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลของยางแต่ละเส้นเข้ากับระบบการจัดการที่กว้างขึ้น เพื่อปลดล็อกนวัตกรรมและศักยภาพในการสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรนี้ได้ถูกติดตั้งในยางรถบรรทุกมิชลินกว่า 90% ในอเมริกาเหนือและยุโรปมาตั้งแต่ปี 2023 และเรากำลังเร่งขยายการเชื่อมต่อนี้ให้ครอบคลุมยางมิชลินทุกประเภทในอนาคตอันใกล้นี้

เนื่องจากยางเป็นเพียงส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน ยางจึงต้องมีศักยภาพในการบอกข้อมูลโดยละเอียดที่เป็นลักษณะเฉพาะตลอดอายุการใช้งาน ด้วยการใช้เทคโนโลยี RFID มิชลินได้เลือกที่จะผลิตยางที่ "ชาญฉลาด" โดยการเชื่อมโยงยางเข้ากับระบบต่างๆที่กว้างขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดและศักยภาพในการสร้างมูลค่า

กลุ่มมิชลินจะเร่งพัฒนาการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพื่อเชื่อมโยงกับยางมิชลินทั้งหมด รวมถึงยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในปี 2023 เราได้ทำการติดตั้งชิป RFID ในยางรถบรรทุกมิชลินไปแล้วกว่า 90% ในอเมริกาเหนือและยุโรป