Background em tyre storage Help and Advice
tire stock
วิธีเก็บรักษายางรถยนต์และยางรถบรรทุกที่ช่วยรักษายางให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ
ยางรถยนต์และยางรถบรรทุกไม่ได้เป็นเพียงส่วนประกอบของยานพาหนะ แต่คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าอย่างราบรื่นและปลอดภัย การลงทุนกับยางคุณภาพสูงจากมิชลินคือการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพสูงสุดของยางจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการดูแลรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดเก็บยางสำรองหรือยางที่ยังไม่ได้ใช้งาน
จะดีกว่าไหมหากคุณรู้ถึงวิธีเก็บรักษายางรถยนต์และยางรถบรรทุกที่ถูกต้อง สิ่งนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งาน คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและโครงสร้างของยางให้พร้อมใช้งานเต็มสมรรถนะอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่มองไม่เห็น และท้ายที่สุดคือการช่วยควบคุมรวมถึงลดต้นทุนให้กับธุรกิจของคุณ บทความนี้จะเจาะลึกทุกขั้นตอนและเคล็ดลับสำคัญในการเก็บรักษายางรถยนต์และยางรถบรรทุก เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ายางมิชลินทุกเส้นจะคงประสิทธิภาพดีเยี่ยมตั้งแต่วันแรกที่จัดเก็บจนถึงวันที่นำกลับมาใช้งาน
2 เคล็ดลับการถนอมยางไม่ให้เสื่อมก่อนเวลาอันควร
ก่อนที่จะนำยางไปจัดเก็บช่วงสั้นๆ หรือยาวหลายเดือนหรือถึงปี การเตรียมยางให้พร้อมถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเปรียบเสมือนการบำรุงรักษาเบื้องต้นที่จะช่วยรักษาสภาพและโครงสร้างของเนื้อยางให้สมบูรณ์พร้อมใช้งานเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ การสละเวลาเพียงเล็กน้อยในขั้นตอนนี้จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดเก็บ และยืดอายุการใช้งานของยางได้อย่างมีนัยสำคัญ
1. ทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกที่สามารถทำร้ายเนื้อยาง
สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนยางไม่ได้เพียงแค่ทำให้ดูไม่สวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับเนื้อยางรถยนต์และรถบรรทุกได้ในระยะยาว โดยเฉพาะคราบน้ำมันหรือสารเคมีต่างๆ ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
วิธีทำความสะอาด
-
เริ่มต้นด้วยการใช้น้ำสะอาดและแปรงขนอ่อนขัดทำความสะอาด คราบดิน โคลน ฝุ่นละออง และคราบสกปรกอื่นๆ ออกจากบริเวณหน้ายาง ร่องยาง และแก้มยาง
-
อาจใช้สบู่อ่อนๆ หรือผลิตภัณฑ์ล้างรถทั่วไปผสมกับน้ำเพื่อช่วยขจัดคราบฝังแน่น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมหรือสารเคมีที่รุนแรง เพราะสารเหล่านี้สามารถทำลายคุณสมบัติของเนื้อยางและทำให้ยางแห้งกรอบได้
-
ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนหมดจด ไม่ให้มีคราบสบู่หรือสิ่งสกปรกตกค้าง
หัวใจสำคัญคือต้องแห้งสนิท
- หลังจากล้างเสร็จควรเช็ดยางให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาด หรือผึ่งลมในที่ร่มจนแน่ใจว่าไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะบริเวณร่องดอกยางและขอบยาง การปล่อยให้ยางมีความชื้นขณะจัดเก็บ จะเป็นบ่อเกิดของเชื้อรา และทำให้ส่วนประกอบภายในที่เป็นเหล็ก (Steel Belt) เกิดสนิมและเสื่อมสภาพได้
2. ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์และรถบรรทุกก่อนเก็บรักษายางเสมอ
หากคุณได้ตรวจเช็คสภาพยางก่อนเก็บ ก็จะยิ่งช่วยให้ทราบถึงปัญหาที่อาจมีอยู่และจัดการได้อย่างทันท่วงที ดีกว่าการนำยางที่มีปัญหาไปใช้งานต่อโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้
ตรวจสอบร่องรอยความเสียหาย
-
ค่อยๆ หมุนยางและสำรวจอย่างละเอียดรอบเส้น มองหารอยบาด รอยตำ หรือรอยปริแตกบนหน้ายางและแก้มยาง หากพบรอยบาดลึกที่น่ากังวล ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพ
-
สังเกตรอยแตกลายงา บริเวณแก้มยาง ซึ่งเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพของเนื้อยาง
-
ตรวจสอบดูว่ามีการสึกหรอที่ผิดปกติหรือไม่ เช่น ยางสึกเป็นบั้ง สึกเฉพาะขอบด้านในหรือด้านนอก ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาช่วงล่างของรถที่ควรได้รับการแก้ไขก่อนนำยางชุดใหม่ไปใช้งาน
tc tyre stock 2
สิ่งต่างๆ ที่ควรคำนึงถึงก่อนเก็บยางรถยนต์และรถบรรทุก
การเลือกสถานที่และจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม คือหัวใจของการรักษายางรถยนต์และรถบรรทุกให้คงคุณภาพดีเยี่ยมระหว่างการจัดเก็บ สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้เนื้อยางเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นการควบคุมปัจจัยเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
อุณหภูมิและความชื้นคือศัตรูที่มองไม่เห็น
-
อุณหภูมิ: ควรจัดเก็บยางในที่ร่มซึ่งมีอากาศเย็นและแห้ง โดยควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และไม่ควรสูงเกิน 35°C ความร้อนสูงเป็นตัวการเร่งปฏิกิริยาเคมีในเนื้อยาง ทำให้ยางแข็งกระด้างและสูญเสียความยืดหยุ่นได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการเก็บยางใกล้แหล่งกำเนิดความร้อนทุกชนิด เช่น ท่อส่งน้ำร้อน หม้อต้ม หรือเครื่องทำความร้อน
-
ความชื้น: หลีกเลี่ยงพื้นที่จัดเก็บที่ชื้นแฉะ หรือมีความเสี่ยงที่ยางจะสัมผัสกับน้ำโดยตรง เพราะความชื้นไม่เพียงแต่จะทำลายโครงสร้างยางในระยะยาว แต่ยังอาจทำให้ส่วนประกอบที่เป็นเหล็กภายในเกิดสนิมและสูญเสียความแข็งแรงได้ พื้นที่จัดเก็บควรมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันการสะสมของความชื้น
สารเคมีและโอโซนเป็นสิ่งปนเปื้อนที่ต้องหลีกเลี่ยง
แสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจของยางรถบรรทุกและรถยนต์ โดยเฉพาะในที่ถูกจัดเก็บและยังไม่ได้ถูกใช้งานจริง เพราะรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดดจะเข้าไปทำลายพันธะโมเลกุลในเนื้อยาง ทำให้ยางเสื่อมสภาพลงทีละนิดไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ แสงจากหลอดไฟบางชนิด (เช่น หลอดฟฟลูออเรสเซนซ์) ที่ปล่อยรังสี UV ก็สามารถส่งผลเสียบ้างเล็กน้อยแต่ไม่เท่ากับแสงแดด ดังนั้น พื้นที่จัดเก็บที่ดีที่สุดควรเป็นห้องที่มืดและทึบแสง หรือหากจำเป็นต้องเก็บในพื้นที่ที่มีแสง ควรใช้ผ้าใบหรือถุงคลุมยางสีทึบเพื่อป้องกันยางจากแสงโดยตรง
สารเคมีและโอโซนเป็นสิ่งปนเปื้อนที่ต้องหลีกเลี่ยง
-
สารเคมี: ห้ามเก็บยางรถบรรทุกในบริเวณที่อาจมีการสัมผัสหรือปนเปื้อนกับสารเคมีโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะ น้ำมัน, จาระบี, น้ำมันเบนซิน, และสารละลาย (Solvent) ต่างๆ สารเคมีเหล่านี้มีฤทธิ์กัดกร่อนและสามารถซึมเข้าไปทำลายโครงสร้างของเนื้อยาง ทำให้ยางบวมและอ่อนตัวลงจนไม่สามารถใช้งานได้
-
โอโซน: Ozone เป็นก๊าซที่มีฤทธิ์ในการออกซิไดซ์สูงและเป็นอันตรายต่อเนื้อยางอย่างยิ่ง ควร หลีกเลี่ยงการเก็บยางในบริเวณที่มีอุปกรณ์ซึ่งก่อให้เกิดโอโซน เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่, เครื่องเชื่อม, หรือเครื่องปั่นไฟ ก๊าซโอโซนจะเร่งให้ยางเกิดการแตกร้าวและเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็วแม้จะไม่ได้ใช้งานก็ตาม
วิธีเก็บรักษายางรถยนต์อย่างเหมาะสมทำอย่างไร
รูปแบบการจัดเก็บยางรถยนต์ที่ถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับว่ายางถูกถอดออกจากล้อแล้วหรือไม่ การจัดเก็บผิดวิธีอาจทำให้โครงสร้างยางเสียรูปทรงและส่งผลต่อประสิทธิภาพเมื่อนำกลับไปใช้งาน
กรณียางที่ถอดออกจากล้อ
เมื่อจัดเก็บเฉพาะตัวยางที่ไม่มีล้อ การรักษารูปทรงของแก้มยางและหน้ายางคือสิ่งสำคัญที่สุด
วางซ้อนแนวนอน (แนะนำ)
-
นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บยางที่ไม่มีล้อ ควรวางยางซ้อนกันในแนวนอนบนพื้นผิวที่สะอาดและมีฐานรองรับ เพื่อป้องกันความเสียหายจากพื้นโดยตรง
-
ไม่ควรซ้อนยางสูงเกิน 1.2 เมตร (ประมาณ 4-5 เส้น) เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำหนักกดทับที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ยางเส้นล่างสุดเสียรูปทรงได้
-
ควรสลับตำแหน่งของยางในตั้งซ้อนทุกๆ 4 สัปดาห์ (นำเส้นบนสุดไปไว้ล่างสุด) เพื่อกระจายแรงกดทับให้สม่ำเสมอ
วางแนวตั้ง
- เป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ โดยวางยางตั้งเรียงกันในแนวตั้งเหมือนชั้นวางหนังสือ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีข้อควรระวังคือต้องหมุนยางทุกๆ เดือน เพื่อเปลี่ยนจุดที่สัมผัสกับพื้น หากวางทิ้งไว้ในตำแหน่งเดิมนานๆ น้ำหนักจะกดทับลงที่จุดเดียวและอาจทำให้โครงสร้างยางบริเวณนั้นเสียรูปทรง (เกิดอาการ Flat Spot) ได้
กรณียางที่ยังติดอยู่กับล้อ
การเก็บยางที่ยังติดอยู่กับล้อนั้นทำได้ง่ายกว่า เนื่องจากตัวล้อหรือกระทะล้อจะช่วยรักษารูปทรงและโครงสร้างของยางไว้
แขวนยาง
- เป็นวิธีที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ สามารถแขวนยางกับล้อได้โดยตรงกับขอแขวนหรือชั้นวางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ การแขวนจะช่วยลดแรงกดทับที่หน้ายางได้อย่างสมบูรณ์
วางซ้อนแนวนอน
- คุณสามารถวางซ้อนทับกันในแนวนอนได้เลย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียรูปทรงของยาง เนื่องจากน้ำหนักจะถูกรับโดยกระทะล้อซึ่งมีความแข็งแรงสูง วิธีนี้ช่วยประหยัดพื้นที่และจัดการได้ง่ายกว่า
os50870
os50870 Un homme en usine vérifie la qualité d'un pneu
3 วิธีเก็บรักษายางรถบรรทุกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ยางรถบรรทุกมีโครงสร้างที่แข็งแรงและซับซ้อนกว่ายางรถยนต์ทั่วไป การจัดเก็บจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดที่แตกต่างออกไป เพื่อรักษาสภาพโครงสร้างให้แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการใช้งานหนักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือ 3 หลักการสำคัญที่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ต้องให้ความสำคัญ
1. บริหารสต็อกด้วยหลักการ "เข้าก่อน-ออกก่อน" (FIFO)
ในธุรกิจที่มีการหมุนเวียนยางจำนวนมาก การจัดการสต็อกยางคือหัวใจสำคัญ ควรใช้หลักการเข้าก่อน-ออกก่อน (FIFO - First In, First Out) อย่างเคร่งครัด โดยทำเครื่องหมายหรือบันทึกวันที่รับยางเข้าสต็อก และนำยางที่เก่าที่สุดหรือจัดเก็บไว้นานที่สุดออกไปใช้งานก่อนเสมอ วิธีนี้จะช่วยลดระยะเวลาการเก็บสต็อกยางแต่ละเส้นให้สั้นที่สุด เป็นการถนอมยางให้สดใหม่อยู่เสมอ และป้องกันปัญหายางเสื่อมสภาพจากการจัดเก็บเป็นเวลานานเกินไป
2. เก็บยางโดยไม่ให้มีอะไรมาทับ
โครงสร้างของยางรถบรรทุกถูกออกแบบมาให้รับน้ำหนักมหาศาลเมื่อใช้งาน แต่ในขณะจัดเก็บยางควรอยู่ในสภาพที่ผ่อนคลายที่สุด ห้ามเก็บยางรถบรรทุกในลักษณะที่มีแรงกดทับ, แรงดึง, หรือแรงบิดเบือน ที่อาจทำให้โครงสร้างยางเสียหายอย่างถาวรโดยเด็ดขาด ควรวางยางในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติ ไม่วางของหนักทับบนยาง และจัดสรรพื้นที่ให้เพียงพอเพื่อไม่ให้ยางเบียดกันจนเสียรูปทรง
3. ลดแรงดันลมยางเมื่อจัดเก็บทั้งล้อ
สำหรับยางรถบรรทุกที่ยังประกอบอยู่กับล้อและต้องการจัดเก็บเป็นระยะเวลานาน ควรลดแรงดันลมยางลงเหลือประมาณ 50% ของแรงดันลมที่แนะนำขณะใช้งาน การลดแรงดันลมจะช่วยลดแรงตึงที่กระทำต่อโครงสร้างภายในของยางและขอบล้อ ช่วยรักษาสภาพของยางให้สมบูรณ์และยืดอายุการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และอย่าลืมเติมลมกลับสู่ระดับที่เหมาะสมก่อนนำไปใช้งานจริง
เลือกซื้อยางรถยนต์และรถบรรทุกจากพาร์ตเนอร์ร้านยางและศูนย์บริการในเครือของมิชลิน
เพื่อให้มั่นใจได้ว่ายางทุกเส้นที่คุณเลือกใช้มีคุณภาพสูงสุดตั้งแต่วันแรก การเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้จึงมีความสำคัญไม่แพ้การดูแลรักษา พาร์ตเนอร์ร้านยางในเครือข่ายของมิชลินสำหรับลูกค้าธุรกิจคือคำตอบที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ
-
มั่นใจในคุณภาพและการจัดเก็บที่ได้มาตรฐาน: คุณจะมั่นใจได้ว่ายางมิชลินที่ซื้อจากพาร์ตเนอร์ของเรา เป็นยางรถบรรทุกของแท้ที่ผ่านการจัดเก็บมาอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานของมิชลิน ทำให้ยางทุกเส้นคงประสิทธิภาพสูงสุดก่อนถึงมือคุณ
-
รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง: พาร์ตเนอร์ของเรามีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยางรถบรรทุกและยางรถบัสมิชลินทุกประเภท พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเภทธุรกิจและลักษณะการใช้งานของยานพาหนะในองค์กรของคุณ ไม่ใช่แค่เรื่องการเลือกซื้อ แต่ยังรวมถึงการบำรุงรักษาและการจัดเก็บที่ถูกต้อง
-
บริการครบวงจรเพื่อธุรกิจของคุณ: เลือกใช้บริการจากเครือข่ายที่พร้อมสนับสนุนธุรกิจของคุณอย่างมืออาชีพ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด
ขับเคลื่อนธุรกิจของคุณไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ เลือกยางคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้ ค้นหาพาร์ตเนอร์ร้านยางในเครือมิชลินใกล้บ้านคุณได้แล้ววันนี้